วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

EFTA เขตการค้าเสรียุโรป

สมาคมการค้าเสรียุโรป หรือ EFTA 

(European Free Trade Association) 

     จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2503 (ค.ศ.1960) โดย Stockholm Convention โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ เปิดเสรีทางการค้า (แต่ไม่เป็น Customs Union) ประกอบด้วย สมาชิกที่เล็กแต่มั่งคั่ง 4 ประเทศ ได้แก่

  1. ไอซ์แลนด์
  2. สวิตเซอร์แลนด์
  3. นอร์เวย์
  4. และ ลิกเตนสไตน์ 

     มีประชากรรวมกันประมาณ 12.4 ล้านคน ปี 2550 (ค.ศ.2007)

EFTA มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประมาณ 817 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 63,836 ดอลลาร์ สหรัฐฯ ต่อปีนับว่าสูงที่สุดในโลก
มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ1.9 จัดเป็นกลุ่มประเทศที่มีอำนาจซื้อสูง ซึ่ง World Economic Forum Global Competitiveness Report ปี 2551/2552 (ค.ศ.2008/2009) (WEF) ได้จัดให้ EFTA เป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงอันดับที่ 13 ของโลก
     นอกจากนี้ EFTA มีความชำนาญในการผลิตอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
     เศรษฐกิจของ EFTA เป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิด โดยมีภาคบริการเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ เช่น สาขาการเงิน สาขาประกันภัย และสาขาโทรคมนาคม เป็นต้น ทำให้ EFTA เป็นกลุ่มประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อเวทีการค้าระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจโลก
     EFTA มุ่งดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่นๆ ทั้งการค้าสินค้าและการค้าบริการซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
     EFTA ถูกจัดเป็นกลุ่มประเทศ ผู้ค้าสินค้าสำคัญอันดับที่ 11 ของโลก มีมูลค่า 564.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นผู้นำด้านการค้าบริการอันดับที่ 5 ของโลก มีมูลค่า147 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน ตามลำดับ

ข้อตกลงของ EFTA คือ
     1. การเคลื่อนย้ายสินค้าโดยเสรี  กำหนดให้เคลื่อนย้ายสินค้าโดยไม่มีการจัดเก็บ ภาษีนำเข้า/ส่งออก และโควต้าระหว่างสมาชิก
     2. การค้าบริการ ไม่มีการจำกัดสิทธิในการให้บริการระหว่างสมาชิก

การค้าระหว่างไทยกับ EFTA 
     ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของ EFTA การค้าไทย-EFTA มีมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 0.4 ของการค้าระหว่างประเทศของ EFTA ในขณะที่ EFTA เป็นคู่ค้าอันดับที่ 11 ของไทยการค้าสองฝ่ายไทย-EFTA มีมูลค่า 6,521.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศคู่ค้าหลักและรองลงมาได้แก่ นอร์เวย์ ลิกเตนสไตน์ และ ไอซ์แลนด์ตามลำดับ

สินค้าส่งออกสำคัญของ EFTA ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำ อะลูมิเนียม เครื่องจักรเวชภัณฑ์ นาฬิกาอัญมณีและเหล็ก
สินค้านำเข้าสำคัญของ EFTA ได้แก่ เครื่องจักร นิเกิล เฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอน เคมีภัณฑ์อินทรีย์ ยานยนต์เหล็ก และผลิตภัณฑ์พลาสติก

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaifta.com/thaifta/portals/0/FACTBOOK_EFTA.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น