สมาคมการค้าเสรียุโรป หรือ EFTA
(European Free Trade Association)
จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2503 (ค.ศ.1960) โดย Stockholm Convention โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ เปิดเสรีทางการค้า (แต่ไม่เป็น Customs Union) ประกอบด้วย สมาชิกที่เล็กแต่มั่งคั่ง 4 ประเทศ ได้แก่- ไอซ์แลนด์
- สวิตเซอร์แลนด์
- นอร์เวย์
- และ ลิกเตนสไตน์
มีประชากรรวมกันประมาณ 12.4 ล้านคน ปี 2550 (ค.ศ.2007)
EFTA มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประมาณ 817 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 63,836 ดอลลาร์ สหรัฐฯ ต่อปีนับว่าสูงที่สุดในโลก
มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ1.9 จัดเป็นกลุ่มประเทศที่มีอำนาจซื้อสูง ซึ่ง World Economic Forum Global Competitiveness Report ปี 2551/2552 (ค.ศ.2008/2009) (WEF) ได้จัดให้ EFTA เป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงอันดับที่ 13 ของโลก
นอกจากนี้ EFTA มีความชำนาญในการผลิตอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
เศรษฐกิจของ EFTA เป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิด โดยมีภาคบริการเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ เช่น สาขาการเงิน สาขาประกันภัย และสาขาโทรคมนาคม เป็นต้น ทำให้ EFTA เป็นกลุ่มประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อเวทีการค้าระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจโลก
EFTA มุ่งดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่นๆ ทั้งการค้าสินค้าและการค้าบริการซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
EFTA ถูกจัดเป็นกลุ่มประเทศ ผู้ค้าสินค้าสำคัญอันดับที่ 11 ของโลก มีมูลค่า 564.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นผู้นำด้านการค้าบริการอันดับที่ 5 ของโลก มีมูลค่า147 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน ตามลำดับ
ข้อตกลงของ EFTA คือ
1. การเคลื่อนย้ายสินค้าโดยเสรี กำหนดให้เคลื่อนย้ายสินค้าโดยไม่มีการจัดเก็บ ภาษีนำเข้า/ส่งออก และโควต้าระหว่างสมาชิก
2. การค้าบริการ ไม่มีการจำกัดสิทธิในการให้บริการระหว่างสมาชิก
การค้าระหว่างไทยกับ EFTA
ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของ EFTA การค้าไทย-EFTA มีมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 0.4 ของการค้าระหว่างประเทศของ EFTA ในขณะที่ EFTA เป็นคู่ค้าอันดับที่ 11 ของไทยการค้าสองฝ่ายไทย-EFTA มีมูลค่า 6,521.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศคู่ค้าหลักและรองลงมาได้แก่ นอร์เวย์ ลิกเตนสไตน์ และ ไอซ์แลนด์ตามลำดับ
สินค้าส่งออกสำคัญของ EFTA ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำ อะลูมิเนียม เครื่องจักรเวชภัณฑ์ นาฬิกาอัญมณีและเหล็ก
สินค้านำเข้าสำคัญของ EFTA ได้แก่ เครื่องจักร นิเกิล เฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอน เคมีภัณฑ์อินทรีย์ ยานยนต์เหล็ก และผลิตภัณฑ์พลาสติก
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaifta.com/thaifta/portals/0/FACTBOOK_EFTA.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น